นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการปรับโครงสร้าง โดยจัดตั้งสำนักกิจการระหว่างประเทศขึ้นครั้งแรก เพื่อมุ่งส่งเสริมเกษตรกรไทยพัฒนาสู่ระดับอินเตอร์ ซึ่งประกอบด้วย 3 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1.การนำสินค้าเกษตรไทยไปจำหน่ายในต่างประเทศ โดยนำร่องกับธนาคารเกษตรของจีน 2.การร่วมมือทางด้านวิชาการ ด้านเงินทุน และหาแหล่งเงินต้นทุนต่ำเข้ามาให้ ธ.ก.ส. ไปปล่อยกู้ต่อให้เกษตรกร และ 3.การจัดทำช่องทางจำหน่ายสินค้าเกษตร ระหว่าง ธ.ก.ส. ไปยังลูกค้าต่างประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้นำร่อง พาเกษตรกรหัวขบวน 10 ราย มาดูงานด้านการเกษตรที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก เพื่อศึกษาด้านการแปรรูปผลผลิต การสร้างมูลค่า การพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง รวมถึงพัฒนาการเกษตรเชิงท่องเที่ยว โดยต้องการให้เกษตรกรได้มาเห็นของจริง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเกษตรกรของญี่ปุ่นว่ามีแนวคิดอย่างไร บริหารแบบไหน ถึงทำให้ร่ำรวยมีมูลค่าสูง โดยผลิตออกมาไม่ต้องเยอะ แต่สามารถขายได้ราคาสูง
“สิ่งที่เห็นได้จากการดูการผลิตไวน์ เครื่องปั้นดินเผา การพัฒนาแพ็กเกจจิง หรือที่นาขั้นบันได คือ ภาคการเกษตรของญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่การปลูกไปเรื่อยๆ แต่เริ่มต้นจากการวางแผนว่าจะขายสินค้าอะไรให้กับใคร รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้การวิจัยพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ซึ่งจะทำให้สินค้าขายได้ดีและมีราคาสูง ตรงกับสิ่งที่ ธ.ก.ส. กำลังส่งเสริมให้ความรู้ ควบคู่กับสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ด้านนายวิชัย ปักษา ผู้อำนวยการสำนักกิจการระหว่างประเทศ ธ.ก.ส. กล่าวว่า เดิมที ธ.ก.สคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบด้านส่งเสริมเกษตรกรระหว่างประเทศชัด จนกระทั่งได้มีการจัดตั้งสำนักกิจการระหว่างประเทศ ขึ้นมาเมื่อ 1 ต.ค. 66 ที่ผ่านมา โดยพัฒนาบทบาทจากกลุ่มงานวิเทศสัมพันธ์ สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เคยรับผิดชอบเฉพาะงานด้านดูแลจัดประชุมสัมมนา ให้ขยายภารกิจครอบคลุมสู่งานด้านพัฒนาด้านการเกษตรกรไทยสู่ต่างประเทศแบบครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการหาแหล่งเงินทุน การหาตลาด การเพิ่มองค์ความรู้
สำหรับบทบาทด้านแรก คือ ส่งเสริมความร่วมมือภาคการเกษตรระหว่างประเทศ ซึ่งปัจจุบัน ธ.ก.ส. เป็นสมาชิกสมาคมสินเชื่อการเกษตรและชนบทแห่งภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (อะปรากา) ซึ่งมีสมาชิก 91 สถาบันการเงิน จาก 24 ประเทศ โดยกำลังเพิ่มบทบาทจากแลกเปลี่ยนความรู้เฉพาะด้านสินเชื่อ ไปสู่ขยายการค้าสินค้าเกษตรร่วมกัน ซึ่งขณะนี้นายฉัตรชัย ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ดำรงตำแหน่งรองประธานสมาคม และเตรียมขึ้นเป็นประธานอีก 2 ปีข้างหน้า กำลังผลักดันยุทธศาสตร์ระยะ 5 ปี (ปี 68-72) เพื่อขยายความร่วมมือทางการค้าสินค้าเกษตรร่วมกันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม
ต่อมาการเพิ่มขยายพันธมิตรความร่วมมือหน่วยงานต่างประเทศนำมาพัฒนาเกษตรกรไทย เช่น ขณะนี้ ธ.ก.ส. ได้ร่วมมือกับองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) รับเงินทุน 8 ล้านยูโร หรือประมาณ 300 ล้านบาท มาปล่อยกู้ให้เกษตรกรแบบไม่มีดอกเบี้ย เพื่อนำไปใช้ทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ยังเตรียมหารือกับธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (เอดีบี) เพื่อขอแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 3,500 ล้านบาท มาช่วยเกษตรกรปรับเปลี่ยนการผลิต ลดการปล่อยคาร์บอนฯ ลดโลกร้อนซึ่งเป็นเทรนด์ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัว
ส่วนสุดท้ายสำนักกิจการระหว่างประเทศ จะเข้ามาช่วยส่งเสริมสร้างตลาดสินค้าเกษตรไทยในต่างแดน โดยชูแนวคิดขายน้อยแต่ได้มาก ให้เกษตรกรไทยสามารถผลิตสินค้าเกษตรแบบพรีเมียม หรือนำเกษตรกรหัวขบวนไปจำหน่ายยังต่างประเทศได้ โดยมี ธ.ก.ส. เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงทำการค้าร่วมกัน ซึ่งล่าสุดได้นำร่องพา 10 เกษตรกรหัวขบวน ไปศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นต้น